ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 + A30 Ford Ranger Raptor

DETAIL

MODEL

 

INSTALLATION   

:  Ford Ranger Raptor

:  กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 (หน้า)

:  กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue A30 (หลัง)

ผลงานรีวิวในวันนี้เรียกว่าแรร์อีกแล้วค่ะ กับงานติดตั้งอุปกรณ์บนรถออฟโรดสายโหด Ford Ranger Raptor โดยในวันนี้สิ่งที่ลูกค้าติดตั้งไปเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมที่สาวกรถฟอร์ดต้องชื่นชอบเช่นเคย สำหรับ Ford Ranger Raptor 2018 เป็นรถที่สร้างกระแสตอบรับจากสิงห์กระบะชาวไทยได้ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกเสริมด้วยความบึกบึนแบบเต็มสูบ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่บล็อกใหม่ล่าสุด และช่วงล่างสำหรับขับขี่ออฟโรดชื่อดังจาก Fox เหล่านี้ช่วยส่งให้ Raptor กลายเป็นที่กล่าวถึงในชั่วข้ามคืน

Ford Ranger Raptor 2018 มีดีไซน์ต่างไปจากรุ่นปกติเล็กน้อย ด้วยขนาดตัวถังที่ยาวขึ้น 36 มม. กว้างขึ้น 168 มม. สูงขึ้น 58 มม. ความกว้างล้อคู่หน้าและหลังเพิ่มขึ้น 150 มม. และใต้ท้องรถสูงขึ้น 53 มม. แต่กระนั้น ขนาดของห้องโดยสารยังคงเหมือนกับรุ่นดับเบิ้ลแค็บปกติทุกประการ Raptor มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID เปิด-ปิดอัตโนมัติ, Daytime Running Light แบบ LED, กันชนหน้าสีดำออกแบบเฉพาะรุ่น พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมเพิ่มแผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่องยนต์ทำจากวัสดุเหล็กกล้า เพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรด มาพร้อมตะขอเกี่ยวแบบคู่ทั้งด้านหน้าและหลัง และเพิ่มความบึกบึนด้วยซุ้มล้อสีดำเสริมมาจากตัวถังอีกที บันไดข้างทำจากอลูมิเนียมหุ้มด้วยวัสดุกันลื่นสีดำ ทำให้ขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวก พร้อมติดตั้งพื้นปูกระบะท้ายมาให้จากโรงงานเสร็จสรรพ เสริมด้วยช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ ขณะที่ประตูกระบะท้ายเป็นแบบ Easy Lift Tailgate ซึ่งมีระบบทุ่นแรงยก ช่วยให้สามารถยกฝาประตูขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงมากเหมือนแต่ก่อน ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบเดียวกับ Ranger รุ่นปกติ พร้อมกันชนท้ายสีดำ ส่วนล้ออัลลอยถูกลดขนาดลงจาก 17 นิ้วในรุ่น Wildtrak เหลือ 16 นิ้ว เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรด พร้อมยางขนาด 285/70 R17

Ranger Raptor มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเม้นท์แบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 3 ที่รองรับภาษาไทยได้ พร้อมแผนที่นำทางในตัว หรือสามารถเลือกใช้แผนที่จากสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto ได้ (Android Auto ยังไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย แต่ก็สามารถหาโหลดไฟล์ APK มาลงในมือถือเพื่อใช้งานได้) มีพอร์ต USB ให้จำนวน 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ 1 ตำแหน่ง และช่องจ่ายไฟ 230 โวลต์ อีก 1 ตำแหน่งบริเวณเบาะนั่งด้านหลัง เกริ่นมายาวมากกับฟอร์ดแรปเตอร์ มาถึงในส่วนของกล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 ที่ได้ถูกทีมงาน HMS Thailand ของเราติดตั้งเพิ่มเข้าไปที่ด้านซ้ายของกรอบด้านหลังกระจกมองหลัง เพื่อไม่ให้เกะกะสายตาของคนขับ กล้องจะคอยบันทึกวีดีโอในความละเอียดสูงแบบ Full HD 60FPS ตัวกล้องไมวิวมีระบบปรับภาพ WDR หรือถ้าฟิล์มของรถมืดมากก็สามารถปรับชดเชยแสง(EV) ได้ 7 ระดับ ส่วนบอดี้กล้อง Mio เค้าออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ดี (หนาอ้วน) ความร้อนสะสมน้อย ต่อให้คุณขับขี่รถสัก 10 ชม.ไม่พัก กล้องเหล่านี้จะไม่ออกอาการ Error ใดๆทั้งสิ้น ถัดมาคือการได้รับการแก้ไขปัญหาระหว่างใช้งานพวกบัคต่างๆ ทำได้ได้รวดเร็วกว่ากล้องจีนทั่วไป คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าแบรนด์นี้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพอยู่เสมอ ไม่โดนทอดทิ้งแน่นอน และมาตรฐานการผลิตมีความเข้มงวดสูงมาก มีขั้นตอนการควบคุมหลายชั้นก่อนออกมาจำหน่ายจริง (ชมคลิปโรงงานและห้องแลปของ Mio ได้ที่นี่)

แน่นอนว่าเมื่อคุณได้ติดตั้งกล้องไปแล้ว ยังไงก็ตกรุ่นได้ยากจนเมื่อถึงจุดที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงจริงๆ โดยรถ Ford Raptor คันนี้ก็ได้ติดกล้องเสริมตัวหลังอีกตัวเป็น Mio MiVue A30 กล้องที่สามารถซิงโครไนท์กับ MiVue 792 เพื่อบันทึกวีดีโอพร้อมกันทั้ง 2 กล้องหน้าและหลัง สำหรับตัว Mio MiVue A30 นั้นเป็นกล้องตัวเล็กที่มีความทนทานมากเพราะตัวกล้องทำมาจากโลหะและเลนส์ที่ใช้ก็เป็นเลนส์แก้วที่แข็งกว่าเลนพลาสติกมีความชัดของเลนส์ที่มากกว่าทำให้กล้อง MiVue A30 มีค่ารูรับแสงเพียง F1.8 และบันทึกวีดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD 30FPS บวกกับฟีเจอร์ทีเด็ดคือมี Night Vision ที่ทำให้วีดีโอตอนกลางคืนชัดขึ้นอีกด้วยค่ะ ท่านใดสนใจสามารถสอบถามทีมงาน HMS Thailand  (02-045-0215 วันทำการจ-ศ 9:00-18:00) ประสบการณ์ติดตั้งในรถยุโรปมาแล้วกว่า 5000 คัน!!